ผลของยาปฏิชีวนะกลุ่ม Quinolone ในการรักษาผู้ป่วยที่มีค่า Prostate specific antigen สูงผิดปกติจากพยาธิสภาพต่อมลูกหมากอักเสบ
พรเทพ รัชฏาภรณ์กุล*, วิภาวี กิตติโกวิท, จุลินทร์ โอภานุรักษ์ภาควิชาศัลยกรรม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บทคัดย่อ
บทนำ: ค่า prostate specific antigen (PSA) สูงผิดปกติเป็นข้อบ่งชี้ในการเจาะชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากมากที่สุดในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งการเจาะชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น ความเจ็บปวด เลือดออกทางทวารหนัก หรือติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยหลายคนที่มีค่า PSA สูงผิดปกติอาจได้รับการเจาะชิ้นเนื้อหลายครั้งและพบเพียงภาวะอักเสบของต่อมลูกหมากโดยไม่พบมะเร็ง ผู้แต่งสันนิษฐานว่าการให้ยากลุ่ม quinolone ในผู้ป่วยผลชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากพบการอักเสบน่าจะมีประโยชน์และควรให้ยารักษาก่อนที่จะเจาะจรวจ PSA ในครั้งต่อไป โดยเชื่อว่าค่า PSA น่าจะลดลงหากผู้ป่วยมีเพียงการอักเสบอย่างเดียว
ขั้นตอนและกระบวนการวิจัย: ผู้ป่วยที่มีค่า PSA สูงผิดปกติและมีผลชิ้นเนื้อจากการเจาะต่อมลูกหมากพบการอักเสบของเนื้อเยื่อต่อมลูกหมาก จำนวน 79 คนที่ถูกคัดเลือกและสุ่มแบ่งผู้ป่วยเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 39 คน ได้รับยาปฏิชีวนะกลุ่ม quinolone นาน 4 สัปดาห์ ส่วนอีกกลุ่ม 40 คน ไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ หลังจากนั้นตรวจติดตามระดับ PSA ที่ 3 เดือนหลังทำการศึกษาเพื่อดูระดับการเปลี่ยนแปลงของค่า PSA แล้วนำมาเปรียบเทียบ
ผลการศึกษา: ผู้ป่วยร้อยละ 66 ตอบสนองต่อการรักษา โดยผู้ป่วยในกลุ่มที่ได้รับยาปฏิชีวนะกลุ่ม quinolone มีระดับ PSA ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยมีระดับ PSA ลดลงเฉลี่ย 1.60±3.48 ng/ml (p = 0.01) ส่วนในกลุ่มควบคุมีระดับ PSA ไม่แตกต่างจากเดิม
สรุป: การให้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม quinolone ในผู้ป่วยที่มีค่า PSA สูงผิดปกติจากการอักเสบของเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากสามารถลดระดับของ PSA ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้นผู้ป่วยที่ตรวจพบพยาธิสภาพต่อมลูกหมากมีการอักเสบควรจะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะกลุ่ม quinolone ก่อนการตรวจ PSA ในครั้งถัดไป ซึ่งอาจลดความจำเป็นในการเจาะชิ้นเนื้อได้
ที่มา
วารสารยูโร ปี 2553, December
ปีที่: 31 ฉบับที่ 2 หน้า 106-111