การศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบต่อการกรองของเสียของไต จากการบริหารยาแอมโพเทอริซิน บี แบบต่อเนื่อง 6 ชั่วโมงและ 24 ชั่วโมง
กำธร มาลาธรรม, วีรวัฒน์ มโนสุทธิ, ศศิวิมล รัตนศิริ, สมนึก ดำรงกิจชัยพร, อรอุมา บรรพมัย*Division of Infectious Disease, Department of Medicine, BMA Medical College and Vajira Hospital
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบผลกระทบต่อการชำระครีแอทินินของไต และอาการข้างเคียง จากการบริหารยาแอมโฟเทอริซิน บี แบบต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง และ 24 ชั่วโมง รูปแบบการวิจัย : การวิจัยเชิงทดลองแบบ prospective, randomized controlled study กลุ่มตัวอย่าง : ผู้ป่วยในของภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันบำราศนราดูร ที่มีข้อบ่งชี้ในการได้รับยาแอมโฟเทอริซิน บี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2547 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2548 จำนวน 72 ราย วิธีดำเนินการวิจัย : ผู้ป่วยใน ที่มีข้อบ่งชี้ในการได้รับยาแอมโฟเทอริซิน บี และยินยอมเข้าร่วมโครงการ ได้รับการสุ่มคัดเลือกแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มควบคุมได้รับยาแอมโฟเทอริซิน บี แบบต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง จำนวน 35 ราย และกลุ่มทดลองที่ได้รับยาแบบต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง จำนวน 37 ราย กลุ่มตัวอย่างได้รับการตรวจเลือดและปัสสาวะก่อนได้รับยาและทุก 1 สัปดาห์จนได้ยาครบตามกำหนด เพื่อตรวจหาค่าการชำระครีแอทินินของไต (creatinine clearance) และค่าดัชนีที่แสดงถึงปริมาณการคัดหลั่งโพแทสเซียมและแมกนีเซียม (fractional excretion K+ and Mg+) รวมทั้งทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอาการข้างเคียงซึ่งสัมพันธ์กับการบริหารยาตัววัดที่สำคัญ : ค่าการชำระครีแอทินิน (creatinine clearance) ค่าดัชนีที่แสดงถึงปริมาณการคัดหลั่งโพแทสเซียมและแมกนีเซียม (fractional excretion K+ and Mg+) และผลข้างเคียงซึ่งสัมพันธ์กับการบริหารยาแอมโฟเทอริซิน บีผลการวิจัย : ค่าการชำระครีแอทินินในวันที่ 7 และวันที่ 14 ในกลุ่มทดลองที่ได้รับยาแบบต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงเท่ากับ 83.9 + 22.9 มล./ นาที และ 81.8 + 22.5 มล./ นาที ซึ่งมีค่าสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับยาแบบต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) ที่มีการค่าการชำระครีแอทินินเท่ากับ 62.7 + 25.3 มล./ นาที และ 51.7 + 18.9 มล./ นาที ตามลำดับสำหรับการเกิดภาวะไตเสื่อมหรือการที่มีระดับครีแอทินินในเลือด (serum creatinine) สูงขึ้นจากเดิมอย่างน้อย 2 เท่าในกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม เกิดขึ้น ร้อยละ 2.7 และ ร้อยละ 45.7 ซึ่งกลุ่มทดลองเกิดขึ้นน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.001) สำหรับอัตราการเกิดอาการข้างเคียงซึ่งสัมพันธ์กับการบริหารยาแอมโฟเทอริซิน บี ยกเว้นภาวะหลอดเลือดดำอักเสบ พบว่าในกลุ่มทดลอง เกิดขึ้นน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนค่าดัชนีที่แสดงถึงปริมาณการคัดหลั่งของโพแทสเซียม แมกนีเซียม และประสิทธิผลในการรักษาระหว่าง 2 กลุ่ม นั้นแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ สรุป : การบริหารยาแอมโฟเทอริซิน บี แบบต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อไต และอาการข้างเคียงซึ่งสัมพันธ์กับการบริหารยาน้อยกว่าการบริหารยาแบบต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง โดยที่ได้ประสิทธิผลในการรักษาที่ไม่แตกต่างกัน
ที่มา
วชิรเวชสาร ปี 2549, September-December
ปีที่: 50 ฉบับที่ 3 หน้า 153-164
คำสำคัญ
amphotericin B, creatinine clearance, fractional excretion