ที่มาและความสำคัญ: ผู้ป่วยจำนวนมากมีอาการปวดหลังส่วนล่าง ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทในระยะแรกเริ่ม แม้การลดอาการปวดโดยใช้โปรแกรมกายภาพบำบัดในผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้ผลการรักษาดี แต่ผู้ป่วยยังคงมีอาการปวด ผู้วิจัยจึงศึกษาผลของยาที่ใช้ร่วมกับการรักษาในโปรแกรมกายภาพบำบัด

วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบผลการรักษาระหว่างโปรแกรมกายภาพบำบัดร่วมกับคีโทโพรเฟนเจล และ ไดโคลฟีแนคเจล ต่ออาการปวด กำลังกล้ามเนื้อ และองศาการเคลื่อนไหว

วิธีการวิจัย: อาสาสมัครที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างในกลุ่มอาการโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท จำนวน 30 คน ถูกจัดเข้ากลุ่มทดลองแบบสุ่มจำนวน 3 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน โดยผู้ป่วยกลุ่มที่ 1 ให้การรักษาด้วยโปรแกรมกายภาพบำบัดร่วมกับยาหลอก กลุ่มที่ 2 ให้การรักษาด้วยโปรแกรมกายภาพบำบัดร่วมกับไดโคลฟีแนคเจล และกลุ่มที่ 3 ให้การรักษาด้วยโปรแกรมกายภาพบำบัดร่วมกับคีโทโพรเฟนเจล พร้อมประเมินระดับความเจ็บปวดด้วย visual analog scale; VAS ประเมินกำลังกล้ามเนื้อขาที่เลี้ยงด้วย L4, L5, S1  โดยประเมินตาม Medical research council (MRC)  และประเมินองศาการเคลื่อนไหวในช่วงองศาการเคลื่อนไหวการก้มตัวและเอียงลำตัวด้านข้าง ด้วย universal goniometer โดยติดตามการรักษาทุก 2 สัปดาห์ รวม 16 สัปดาห์

ผลการวิจัย: พบว่า กลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยโปรแกรมกายภาพบำบัดร่วมกับคีโทโพรเฟนเจล ให้ผลการรักษาดีที่สุด โดยระดับความเจ็บปวดลดลง เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อระดับ L4, L5 และ S1  และเพิ่มช่วงองศาการเคลื่อนไหวการก้มตัวและเอียงลำตัวด้านข้าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

สรุปผล: การใช้โปรแกรมกายภาพบำบัดร่วมกับ คีโทโพรเฟนเจล โปรแกรมดังกล่าวสามารถลดอาการปวด เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ และช่วงองศาการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท