วัตถุประสงค์: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลของออราเบสใบบัวบกในการรักษาไลเคนเพลนัสในช่องปาก โดยเปรียบเทียบกับออราเบสไตรแอมซิโนโลน อะเซโทไนด์ร้อยละ 0.1 และยาหลอก ในผู้ป่วยที่เป็นไลเคนเพลนัสในช่องปากชนิดฝ่อ และ/หรือชนิดถลอกวัสดุอุปกรณ์และวิธีการ:  ทำการศึกษาผู้ป่วยจำนวน 36 คน ซึ่งได้รับการวินิจฉัยและยืนยันผลว่าเป็นไลเคนเพลนัสในช่องปากด้วยการตรวจทางจุลพยาธิวิทยาและอิมมูโนฟลูออเรสเซนส์ ให้คะแนนความรุนแรงของรอยโรคตั้งแต่ 0 (ไม่มีรอยโรค) ถึง 5 (รอยถลอกขนาดใหญ่) ผู้ป่วยถูกสุ่มให้ได้รับออราเบสใบบัวบก ออราเบสไตรแอมซิโนโลน อะเซโทไนด์ และยาหลอกตามลำดับ แนะนำผู้ป่วยให้ทายาบนรอยโรคที่แห้งวันละ 4 ครั้ง ประเมินคะแนนความรุนแรงของรอยโรคและประเมินอาการเจ็บปวดของผู้ป่วย โดยใช้วิชวล อนาลอก สเกล เมื่อเริ่มรักษา และภายหลังการรักษา 2 และ 4 สัปดาห์ วิเคราะห์คะแนนความรุนแรงของรอยโรคเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้ยาแต่ละชนิดผลการศึกษา:  ผู้ป่วย 12 ราย ที่ได้รับออราเบสไตรแอมซิโนโลน อะเซโทไนด์มีค่าเฉลี่ยคะแนนความรุนแรงของรอยโรคลดลงจาก 3.0 เป็น 1.9 ส่วนผู้ป่วยอีก 12 ราย ที่ได้รับออราเบสใบบัวบกมีคะแนนลดลงเล็กน้อย (คะแนนจาก 2.75 เป็น 2.5) ผู้ป่วยอีก 12 รายที่ได้รับยาหลอก รอยโรครุนแรงขึ้น (คะแนนจาก 2.75 เป็น 2.8) คะแนนความรุนแรงของรอยโรคมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างทั้ง 3 กลุ่ม ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเฉพาะออราเบสไตรแอมซิโนโลน อะเซโทไนด์ที่ลดความรุนแรงของรอยโรคอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในระดับอาการเจ็บปวดของผู้ป่วยทั้งสามกลุ่มสรุป : ออราเบสใบบัวบกมีประสิทธิผลต่ำกว่าออราเบสไตรแอมซิโนโลนอะเซโทไนด์ในการรักษาไลเคนเพลนัสในช่องปากชนิดฝ่อ และ/หรือชนิดถลอก