วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบระดับความเจ็บปวด ระยะเวลาในการทำหัตถการ ปริมาณการเสียเลือด อัตราความสำเร็จของการนำชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์ออกจากโพรงมดลูก ภาวะมดลูกทะลุ และระดับความพึงพอใจของแพทย์และผู้ป่วยจากการรักษาภาวะแท้งไม่ครบด้วยการขูดมดลูกและกระบอกสุญญากาศ

ชนิดของการวิจัย:  การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ

สถานที่ทำการวิจัย: โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น

วัสดุและวิธีการ: สตรีตั้งครรภ์ อายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ที่ได้รับการวินิจฉัยภาวะแท้งไม่ครบจำนวน 36 รายถูกสุ่มเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ได้รับการรักษาโดยการขูดมดลูกและกลุ่มที่รักษาโดยใช้กระบอกสุญญากาศ ระดับความเจ็บปวดถูกประเมินใน 4 ช่วงเวลา บันทึกระยะเวลาในการทำหัตถการและประเมินภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ระหว่างการทำหัตถการ

ตัวชี้วัดสำคัญ: ระดับความเจ็บปวดและระยะเวลาของการทำหัตถการ

ผลการศึกษา: กลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยกระบอกสุญญากาศพบระดับความเจ็บปวดระหว่างการทำหัตถการและขณะจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลน้อยกว่ากลุ่มที่ขูดมดลูกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยค่าเฉลี่ยคะแนนเท่ากับ 6.39 เทียบกับ 7.67 (p <.001) และ 0.28 เทียบกับ 1 (p < 0.01) ตามลำดับ นอกจากนี้ค่าเฉลี่ยระยะเวลาของการทำหัตถการพบน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ 12.72 นาที เทียบกับ 15.76 นาที (p < 0.001) อย่างไรก็ตามไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของปริมาณการเสียเลือด การเปลี่ยนแปลงระดับความเข้มข้นของเลือด และระดับความพึงพอใจจากการรักษาทั้ง 2 วิธี อัตราความสำเร็จของการนำชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์ออกจากโพรงมดลูกเท่ากับร้อยละ 94.4 ทั้ง 2 วิธี และไม่พบภาวะมดลูกทะลุในการศึกษาครั้งนี้

สรุป: จากการศึกษาครั้งนี้ พบว่าการรักษาภาวะแท้งไม่ครบในอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ โดยการใช้กรบอกดูดสุญญากาศก่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยกว่า ใช้ระยะเวลาในการทำหัตถการสั้นกว่า เปรียบเทียบกับการขูดมดลูก การนำชิ้นส่วนของการตั้งครรภ์ออกจากโพรงมดลูกโดยการใช้กระบอกดูดสุญญากาศได้ผลสำเร็จเท่ากับการขูดมดลูก