การศึกษาประสิทธิผลของการทาเจลว่านหางจระเข้ในการรักษาริ้วรอยรอบดวงตา
ทิพากร สิทธิการิยะ, วิภาเพ็ญ โชคสัมฤทธิ์*
สาขาวิชาตจวิทยา สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพมหานคร 36/87/88 ชั้น 25 อาคารพีเอสทาวเวอร์ ถนนอโศก สุขุมวิท 21 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
บทคัดย่อ
ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาเป็นอาการแสดงที่เกิดขึ้นเป็นอันดับต้นๆ บ่งบอกถึง ความชราของผิวหนัง ทำให้เกิดผลกระทบด้านความสวยงามและความวิตกกังวล มีงานวิจัยพบว่าการรับประทานวุ้นว่านหางจระเข้ สามารถเพิ่มการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง ส่งผลให้ริ้วรอย ลดลง แต่ยังไม่มีงานวิจัยในรูปแบบยาทา วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการทาเจลว่านหางจระเข้ 90% ในการรักษาริ้วรอยรอบดวงตา ทำการศึกษาโดยแบ่งครึ่งหน้าและสุ่มเลือกให้รอบดวงตาด้านหนึ่งทาเจล ว่านหางจระเข้ 90% และอีกด้านทา placebo gel วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ นัดติดตามผลที่ 4, 8 และ 12 สัปดาห์ ประเมินริ้วรอยจากคะแนนริ้วรอยโดย Rao-Goldman 5-point visual scoring scale ความลึกริ้วรอยด้วยเครื่อง Visioscan® VC98 ความยืดหยุ่นของผิวหนังด้วยเครื่อง Cutometer® MPA580 การเปลี่ยนแปลงคะแนนริ้วรอยจากภาพถ่าย ความพึงพอใจต่อผลการรักษา ผลข้างเคียง ผลการศึกษา อาสาสมัคร เพศหญิง 22 ราย อยู่จนสิ้นสุดงานวิจัย อายุเฉลี่ย 49.82±7.60 ปี ค่าเฉลี่ยคะแนนริ้วรอยก่อนการรักษา 3.04±0.51 ในสัปดาห์ที่ 12 พบว่าคะแนนริ้วรอย ความลึกริ้วรอย ความยืดหยุ่นของผิวหนัง การเปลี่ยนแปลง คะแนนริ้วรอยจากภาพถ่าย ความพึงพอใจต่อผลการรักษาด้านที่ทาเจลว่านหางจระเข้ 90% ดีกว่าด้านที่ทา placebo gel อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติและไม่พบผลข้างเคียงจากเจลว่านหางจระเข้ 90% ตลอดระยะเวลา การศึกษา 12 สัปดาห์ ดังนั้น เจลว่านหางจระเข้ 90% สามารถใช้ลดริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างปลอดภัยเป็นอีก ทางเลือกหนึ่งในการรักษาริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา
 
 
ที่มา
วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ปี 2562, December ปีที่: 26 ฉบับที่ 3 หน้า 113-124
คำสำคัญ
Aloe vera gel, periorbital wrinkle, collagen, ริ้วรอยรอบดวงตา, คอลลาเจน, ว่านหางจระเข้