ผลการใช้ยาทา 0.05% Clobetasol propionate cream เปรียบเทียบกับ 0.05% Clobetasol propionate cream และ 10% Urea cream ร่วมกับการดูแลโดยใช้ผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลางในการรักษาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
อาชีญาภัท อินทพงษ์
กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลกำแพงเพชร
บทคัดย่อ
โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังซึ่งไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เลยยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด การรักษาปัจจุบันสามารถบรรเทาอาการและรอยโรคให้สงบ รวมกับการให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง การใช้ยาทาคอร์ติโคสเตียรอยด์ นับเป็นวิธีการหนึ่งในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่พบว่ามีผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยากลุ่มนี้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบกับผลการรักษาโรคสะเก็ดเงินโดยการใช้ยาทา 0.05% Clobetasol propionate กับ ยาทา 0.05% Clobetasol propionate และ 10% Urea cream เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ร่วมกับการดูแลโดยใช้ผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง
วิธีการ : การวิจัยเชิงรักษาแบบสุ่ม (randomized therapeutic research) ในผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสะเก็ดเงินชนิดรุนแรงน้อยรายใหม่ที่เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม 2560 ทุกรายรวม 20 ราย สุ่มอย่างง่ายเป็น 2 กลุ่มกลุ่มละ 10 ราย กลุ่มเปรียบเทียบรักษาด้วยยาทา 0.05% Clobetasol propionate cream  ถ้า 2 ครั้งต่อวัน กลุ่มศึกษารักษาด้วยยาทา 0.05% Clobetasol propionate cream  1 ครั้ง และ 10% Urea cream 1 ครั้ง ร่วมกับการดูแลโดยใช้ผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง รวบรวมข้อมูลทั่วไปจากแบบบันทึก ประเมินผลลัพธ์การรักษาโดยคะแนน Psoriasis Area and Severity index (PASI score) ในวันแรกที่เข้ารับการรักษา 2 และ 4 สัปดาห์หลังการรักษา และประเมินคะแนนคุณภาพชีวิตโดยใช้แบบสอบถามคุณภาพชีวิตขององค์กรอนามัยโลก ชุดย่อฉบับภาษาไทย ในวันแรกที่เข้ารับการรักษาและ 4 สัปดาห์หลังการรักษา มีข้อเปรียบเทียบลักษณะทั่วไปของ 2 กลุ่มโดยใช้สถิติ exact probability เปรียบเทียบคะแนน PASI และคะแนนคุณภาพชีวิตของทั้ง 2 กลุ่มและก่อนหลังการรักษาด้วยสถิติ T-test
ผล : ลักษณะทั่วไปของทั้ง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน และผลการรักษาของผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มก็ไม่มีความแตกต่างกัน โดยคะแนน PASI  วันแรก, 2 สัปดาห์ และ 4 สัปดาห์ หลังการรักษา ในกลุ่มศึกษาเท่ากับ 9.1 4, 0.90 และ 0.34 คะแนนตามลำดับ คะแนนเฉลี่ยPASI  ลดลงร้อยละ 94.47 กลุ่มเปรียบเทียบเท่ากับ 8.9 3, 0.98 และ 0.83 คะแนน คะแนนเฉลี่ย PASI ลดลง ร้อยละ 88.57 ส่วนคะแนนคุณภาพชีวิตในวันแรกและ 4 สัปดาห์ หลังการรักษาของผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน
สรุป : การรักษาผู้ป่วยสะเก็ดเงินชนิดรุนแรงน้อยด้วยการใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์เพียงวันละ 1 ครั้ง และใช้ครีมเพิ่มความชุ่มชื้น ร่วมกับการดูแลโดยใช้ผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง มีผลการรักษาไม่แตกต่างจากการรักษาด้วยการใช้ยาทากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์วันละ 2 ครั้ง จึงเป็นวิธีที่ควรนำมาใช้ในการรักษา เพื่อช่วยลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์เป็นเวลานาน
 
ที่มา
Kamphaeng Phet Hospital ปี 2562, January-June ปีที่: 23 ฉบับที่ 1 หน้า 1-8
คำสำคัญ
corticosteroid, Psoriasis, โรคสะเก็ดเงิน, emollient, patient-centered care, family-centered care, คอร์ติโคสเตีรอยด์, ครีมเพิมความชุ่มชืน, การดูแลโดยใช้ผู้ป่วยและครอบครัวเป็นศูนย์กลาง