โปรแกรมการปฏิบัติการพยาบาลที่บ้านเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง
ทศพร คำผลศิริ
ผศ.ดร.กนกพร สุคำวัง, ผศ.ดร.ศิริรัตน์ ปานอุทัย, รศ.ดร.ลินจง โปธิบาล
บทคัดย่อ
ผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองขณะกลับไปอยู่ที่บ้านมักพบว่ามีคุณภาพชีวิตลดลง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบสองกลุ่มวัดซ้ำหลายครั้ง เพื่อศึกษาความแตกต่างระหว่างระดับคุณภาพชีวิต ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน ความซึมเศร้า และการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวของผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง ระหว่างผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการปฏิบัติการพยาบาลที่บ้านและกลุ่มที่ไม่ได้รับโปรแกรมกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองที่ออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่ที่บ้านไม่เกิน 1 ปี และมีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปจำนวน 58 ราย สุ่มเข้ากลุ่มทดลอง 30 รายและกลุ่มควบคุม 28 ราย กลุ่มทดลองได้เข้าร่วมในโปรแกรมการปฏิบัติการพยาบาลซึ่งประกอบด้วยการให้ความรู้และให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมการดูแลตนเองของผู้ที่รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองและครอบครัวที่บ้าน ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการดูแลตามปกติ การเก็บรวบรวมข้อมูลทำก่อนให้การพยาบาล หลังให้การพยาบาล 6 สัปดาห์และ 12 สัปดาห์ โดยใช้เครื่องมือได้แก่ 1) แบบบันทึกข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วย 2) ดัชนีความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของบาร์เทล 3) แบบวัดภาวะซึมเศร้าสำหรับผู้สูงอายุไทย 4) แบบวัดการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวและ 5)แบบวัดผลกระทบจากโรคหลอดเลือดสมองเพื่อประเมินคุณภาพชีวิต แบบวัดที่ใช้ได้ผ่านการทดสอบคุณภาพในระดับที่ยอมรับได้ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติบรรยายและวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวแบบวัดซ้ำผลการวิจัยพบว่าความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันในกลุ่มทดลองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่สัปดาห์ที่ 6 และ 12 หลังการได้รับโปรแกรม แต่ในกลุ่มควบคุมเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 6 แต่ไม่เปลี่ยนแปลงในสัปดาห์ที่ 12 ส่วนความซึมเศร้านั้นพบว่ากลุ่มทดลองมีระดับความซึมเศร้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญตลอดทุกช่วงของการวัด แต่กลุ่มควบคุมระดับความซึมเศร้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง สำหรับการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัวของทั้งสองกลุ่มนั้นพบว่าเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีนัยสำคัญตลอดทุกช่วงของการวัด ในขณะที่คุณภาพชีวิตของทั้งสองกลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่กลุ่มทดลองเพิ่มขึ้นมากกว่า ผลการศึกษาไม่พบความแตกต่างระหว่างความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน ความซึมเศร้า การรับรู้การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว และคุณภาพชีวิตระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมในสัปดาห์ที่ 12 อย่างไรก็ตามการที่กลุ่มทดลองมีความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน มีการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว และมีคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มควบคุม และมีความซึมเศร้าลดลงมากกว่ากลุ่มควบคุม แสดงเห็นถึงประสิทธิภาพของโปรแกรมการปฏิบัติการพยาบาลที่บ้าน ดังนั้นควรมีการติดตามผลของโปรแกรมในระยะยาวและในกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ที่มา
พยาบาลศาสตรดุษฎีบัณฑิต (พยาบาลศาสตร์) คณะ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 2549